Notifications

You are here

อีบุ๊ค

การวิจัยและขยายผลการจัดการศัตรูพืชผักเศรษฐกิจโดยชี...

TNRR

Description
การใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืชเป็นแนวทางหลักที่เกษตรกรนิยมใช้ในการควบคุมศัตรูพืช แต่ในพื้นที่ที่มีการระบาดรุนแรงของด้วงหมัดผักแถบลาย Phyllotreta sinuate Stephens (Coleoptera: Chrysomelidae) การใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืชอาจไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร ดังนั้นการใช้ศัตรูธรรมชาติเพื่อลด ละ เลิก การใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืชจึงมีความจำเป็นที่จะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับเกษตรกร งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาบรรจุภัณฑ์มวนพิฆาต Eocanthecona furcellata Wolff (Hemiptera: Pentatomidae) และแมลงช้างปีกใสMallada basalis Walker (Neuroptera: Chrysopidae) ให้มีรูปแบบพร้อมใช้ในการควบคุมแมลงศัตรูผักที่สำคัญ ควบคู่ไปกับการขยายเครือข่ายผู้เพาะเลี้ยงศัตรูธรรมชาติและขยายผลการใช้ศัตรูธรรมชาติในแปลงเกษตรกร จำนวนสิบราย ในผักบุ้ง คะน้า และผักกาดหอม รวมถึงเพื่อทราบแนวทางในการควบคุมแมลงศัตรูผักในคะน้าโดยชีววิธี จำนวนสามฤดูกาลปลูก ดำเนินงานวิจัย ณ บ้านโนนเขวา ตำบลดอนหัน อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ผลการศึกษาพบว่าตัวอ่อนมวนพิฆาตวัย 3 มีการห้ำหนอนใยผัก Plutella xylostella Linnaeus (Lepidoptera: Plutellidae) ระยะตัวหนอนวัย 3 ได้ดีที่สุดคือ 6.20?1.32 ตัว/วัย รองลงมาคือ ตัวหนอนวัย 4 และระยะดักแด้ ที่ 4.80?1.03 และ 3.00?0.94 ตัว/วัย ตามลำดับ เมื่อทำการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ตัวอ่อนมวนพิฆาต พบว่าบรรจุภัณฑ์กรวยหงายที่มีไขเคลือบ ขนาด 7x10 ซม. มีความเหมาะสมที่สุดโดยไม่ส่งผลต่อการตายของมวนพิฆาตและสามารถใช้ระยะเวลาเพียง 30 นาที ในการออกจากบรรจุภัณฑ์ ขณะที่บรรจุภัณฑ์ไข่มวนพิฆาตแบบแขวนถ้วยพลาสติก ขนาดรูบรรจุภัณฑ์ 0.18 ซม. ไม่ส่งผลต่อการออกจากบรรจุภัณฑ์ของตัวอ่อนมวนพิฆาตวัย 1 ผลการควบคุมหนอนใยผักด้วยตัวอ่อนมวนพิฆาตในบรรจุภัณฑ์แบบกรวยหงายในสภาพโรงเรือน แสดงให้เห็นว่าโรงเรือนที่ปล่อยตัวอ่อนมวนพิฆาตสามารถทำให้ประชากรหนอนใยผักลดลงเหลือ 18.06% ในส่วนการเก็บเกี่ยวไข่แมลงช้างปีกใสออกจากวัสดุวางไข่ด้วยสารโซเดียมไฮโปคลอไรท์ ที่ระดับความเข้มข้น 0.5% นาน 35 วินาที มีผลทำให้ไข่แมลงช้างปีกใสเสียหายน้อยที่สุด และมีเปอร์เซ็นต์การฟักสูงที่สุด บรรจุภัณฑ์ตัวอ่อนแมลงช้างปีกใสแบบซองทำให้ตัวอ่อนแมลงช้างปีกใสออกจากบรรจุภัณฑ์ได้ดีกว่าแบบแขวน กำลังการผลิตเชื้อราขาวบิวเวอร์เรีย Beauveria bassiana Balsamo (Hypocreales: Clavicipitaceae) เชื้อราเขียวเมตาไรเซียม Metarhizium anisopliae Metsch (Hypocreales: Clavicipitaceae) และเชื้อราไตรโคเดอร์มา Trichoderma harzianum Rifai (Hypocreales: Hypocreaceae) อยู่ที่ 254.25 กก. และเมื่อตรวจประเมินคุณภาพเชื้อราก่อนนำไปใช้ในแปลงขยายผลพบว่า 83% ไม่มีการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์อื่น ผลจากการนำศัตรูธรรมชาติไปขยายผลในแปลงเกษตรกร พบว่าแปลงที่มีการใช้ชีวภัณฑ์ให้อัตราส่วนผลตอบแทนต่อต้นทุนสูงกว่าแปลงที่ใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืชในผักบุ้ง คะน้า และผักกาดหอม การผสมผสานการใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืชร่วมกับศัตรูธรรมชาติในช่วงเก็บเกี่ยวคะน้านั้นให้ผลดีเทียบเท่ากับการใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืชเพียงอย่างเดียว คำสำคัญ: ศัตรูธรรมชาติ, ผักวงศ์กะหล่ำ, การควบคุมศัตรูพืชโดยชีววิธี<br><br>Pesticide is one of the main methods to control pests used by farmers. However, the use of pesticide may not be successful when the area is severely infested by the striped flea beetle Phyllotreta sinuate Stephens (Coleoptera: Chrysomelidae). Therefore, using natural enemies to reduce and eliminate the use of pesticide is necessary when it comes to build confidence among farmers. The objective of this research is to develop the ready to use bio-products of predatory bug Eocanthecona furcellata Wolff (Hemiptera: Pentatomidae) and green lace wing Mallada basalis Walker (Neuroptera: Chrysopidae) to control the important vegetable insect pests; to increase the network of natural enemy cultivators and expand the use of natural enemies in the ten farmer plots of morning glory, chinese kale and lettuce, as well as to obtain the guideline of biological control of insect pests in chinese kale for three growing seasons. The research was conducted at Ban Non Khao, Don Han sub-district, Mueang district, Khon Kaen province. The results revealed that the third instar nymph of predatory bug consumed the third instar larvae of diamondback moth at 6.20?1.32 larvae/developmental stage, followed by the forth instar larvae and the pupae at 4.80?1.03 and 3.00?0.94 larvae/developmental stage, respectively. The development of nymphal stage predatory bio-products, the container with the upturned cone shaped with wax in the size of 7x10 cm. was the most suitable and did not affect the death of predatory bug and spent only 30 mins to get out of the container. While the development of egg stage predatory bio-products, the plastic cup with the hole size of 0.18 cm. did not affect the exit of the first instar nymphal stage. The result from the use of predatory bug in the upturned cone shaped container against diamondback moth in the net house indicated that the population of diamondback moth decreased by 18.06%. The green lace wing egg harvested with NaOCl at the concentration of 0.5% for 35 second showed the lowest egg damage and the highest egg hatching percentage. The green lace wing larvae can get out from the sachet better than the hanging ones. The production capacity of Beauveria bassiana Balsamo (Hypocreales: Clavicipitaceae), Metarhizium anisopliae Metsch. (Hypocreales: Clavicipitaceae) and Trichoderma harzianum Rifai (Hypocreales: Hypocreaceae) were 254.25 kg. When assessing the fungal quality prior to the use in the field, it was found that 83% of the production was not contaminated. The result of applying natural enemies to the farmers plots indicated that the plots with bio-product use had higher Benefit-Cost Ratios than the plots in morning glory, chinese kale and lettuce with pesticide. The integration of pesticides with bio-products during harvesting stage of chinese kale gave better results compared only pesticides used. Keyword: Natural enemies, Brassicaceae, Biological control

Date of Publication :

02/2023

Publisher :

สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)

Category :

รายงานการวิจัย

Total page :

77012 pages


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้ (Cookie) เพื่อใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ นโยบายคุกกี้
ยอมรับ